วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทำงานนอกเหนือคำสั่ง

กาลครั้งหนึ่งนานมากแล้ว มีทหารอยู่กองหนึ่ง หลังจากออกรบอย่างยาวนาน (ก็..ไม่กี่สัปดาห์หรอกนะ) ก็กลับเข้าสู่กรมกอง

ท่านนายพลถามหัวหน้ากองว่า "เป็นไง งานที่ข้าสั่งให้ท่านทำเป็นอย่างไรบ้าง"

หัวหน้ากองรายงานว่า "ข้าพเจ้าได้พาเหล่าทหาร ออกปล้นสะดมภ์ เผาหมู่บ้าน เรียกค่าคุ้มครอง ข่มขืนผู้หญิง ฆ่าตัดหัวทุกคนที่ขัดขืน ตามคำสั่งของท่านทุกประการ"

ท่านนายพลตบมือลงบนโต๊ะด้วยความสะใจ "ดีมาก พวกมันจะได้รู้ฤทธิ์ของพวกเราบ้าง"

หัวหน้ากองรายการต่อว่า "เชื่อว่าพวกมันโดยเฉพาะไอ้พวกทางด้านตะวันออกจะได้เข็ดหลาบสักที"

"ท่านว่าอะไรนะ" นายพลทำท่าตกใจ "พวกเราไม่เคยมีเรื่องกับพวกตะวันออกนี่"

นายกองจึงรายงานว่า "ถ้าเช่นนั้น ณ บัดนี้ก็มีแล้วล่ะขอรับ"

ทำอะไรก็ผิดไปหมด

เหตุเกิดขึ้นในรถไฟขบวนหนึ่ง ขณะที่ป๊อกเดินหาที่นั่งของตัวเองอยู่นั้น ก็เห็นว่าที่นั่งของเค้าอยู่ติดกับผู้หญิงวัยกลางคนแต่งตัวดีคนหนึ่ง แต่ทว่าที่นั่งไม่ได้ว่างเสียแล้ว เพราะมีหมาน้อย (ในกรงเล็ก ๆ ใหญ่กว่าตัวนิดหน่อย) หลับอยู่บนเบาะที่นั่ง

"เอ้อ ขอโทษนะครับ ที่นั่งผมตรงนี้ครับ" ป๊อกกล่าวกับหญิงคนนั้น

"ต๊ายเธอ" เธอขึ้นเสียงใส่ "ไม่เห็นหรือไงยะ ว่าลูกชั้นกำลังหลับปุ๋ยอยู่เนี่ย"

ป๊อกตะลึงไปพักนึง ไม่รู้จะทำยังไง ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย ก็เลยกะว่าจะเดินไปสักรอบนึง เผื่อเจ้าหมามันจะตื่นแล้ว เธอจะได้ไม่อ้างแบบเดิมอีก ป๊อกเดินวนไปมา (ระหว่างห้องน้ำกับตู้เสบียง) จนเหนื่อย ในที่สุดรถไฟก็มาหยุดที่สถานีอีกหนึ่ง แล้วเจ้าหมาน้อยก็ตื่นพอดี ป๊อกจึงเดินไปหาหญิงคนนั้นอีกที

"คุณป้าครับ ผมนั่งได้หรือยังครับ ผมเหนื่อย แล้วก็เมื่อยมากแล้วครับ" ป๊อกบอกอย่างสุภาพ

"ไร้มารยาท" หญิงคนนั้นกรีดร้อง "เธอว่าอะไรนะ เรียกชั้นว่าป้าเหรอ" เธอหลับตาเหมือนจะคิดคำด่า ในที่สุดเธอก็บอกว่า "เธอเนี่ยตัวเหม็น เหงื่อเยอะ ไร้มารยาท หยิ่ง จองหอง เสียจริง พ่อแม่ไม่สั่งสอนเธอบ้างเลยหรือไงยะ"

ป๊อกทนไม่ไหวอีกแล้ว แต่ก็ไม่ว่าอะไร ป๊อกค่อย ๆ ก้มตัวไปหยิบกรงนั้นขึ้นมาจากที่นั่งของเขา มองหน้าหมาน้อยแล้วก็บอกว่า "ขอโทษนะ" แล้วป๊อกก็โยนมันออกไปนอกหน้าต่างรถไฟทันที

ป๊อกนั่งลงตรงที่นั่งของเขา แล้วไม่มองหน้าหญิงคนนั้นอีกเลย ปล่อยให้เธอกรีดร้อง และสั่งให้ผู้โดยสารคนอื่นที่อยู่ใกล้ ๆ กันช่วยเธอจัดการอะไรสักอย่างหนึ่งกับป๊อก

ทันใดนั้นก็มีชายสูงอายุคนหนึ่ง ลุกขึ้นชี้หน้าป๊อก แล้วบอกว่า "แกนะแก แกทำอย่างนั้นได้ยังไง ไอ้คนไม่รู้จักคิด ทำอะไรทำไมถึงไม่คิดถึงผลที่ตามมาบ้าง ทำอะไรก็ผิดไปหมด"

ชายชราชี้ไปที่หญิงคนนั้นแล้วพูดต่อว่า "ทำไมแกถึงไม่โยนอีนังนี่ลงไปจากรถไฟแทนเจ้าหมาตัวนั้นเล่า"

เก้าคำกำกวมของผู้หญิง

(1) ดี,โอเค: คำนี้ผู้หญิงใช้ปิดการโต้เถียงตอนที่เธอมั่นใจว่าเป็นฝ่ายถูก และคุณต้องหุบปากซะ
(2) ห้านาทีนะ: ถ้า หล่อนกำลังแต่งตัว นี่จะหมายถึงชั่วโมงครึ่ง แต่ห้านาทีก็คือห้านาทีถ้าเธอเพิ่งยอมให้คุณดูบอลต่ออีกห้านาทีแล้วค่อยไป ช่วยเธอทำงานบ้าน
(3) ไม่มีไร: นี่คือความสงบก่อนพายุจะเข้า มันแปลว่า”มีอะไร”แน่ ๆ ขอให้เตรียมตัวได้เลย การโต้เถียงที่เริ่มด้วย “ไม่มีไร” มักจะไปจบลงที่ “ดี,โอเค”
(4) ก็เอาดิ,เอาเลย: นี่เป็นคำท้า ไม่ใช่คำอนุญาต อย่าทะลึ่งทำเป็นอันขาด!
(5) ทำเสียง ชิ,ฮึ,จึ๊ ฯลฯ ออกมาดัง ๆ: มัน มีความหมายแน่นอน แต่อวจนภาษามักทำผู้ชายเข้าใจผิด เสียงพวกนี้หมายความว่าเธอกำลังคิดว่าคุณแม่งซื่อบื้อเหลือทน และไม่เข้าใจว่าจะมาเสียเวลายืนเถียงกับคุณเรื่อง”ไม่มีไร”แบบนี้ทำไม (กลับไปดู “ไม่มีไร” ที่ข้อ 3)
(6) ไม่เป็นไร: นี่คือสถานะอันตรายสุด ๆ ที่ผู้หญิงจะมีต่อผู้ชายแล้ว “ไม่เป็นไร”แปลว่าเธอต้องคิดดูก่อนอย่างนานและอย่างหนักว่าคุณต้องชดใช้อะไร อย่างไร และเมื่อไหร่ ในความผิดที่คุณก่อไว้
(7) ขอบคุณ: ถ้าผู้หญิงขอบคุณ อย่ามีคำถาม อย่ามัวทำเฉย ตอบรับคำเขาไปดี ๆ (แต่ขอเพิ่มหน่อยว่า ถ้าผู้หญิงพูดว่า “ขอบคุณมาก” อันนี้ประชดเต็มดอก เธอไม่ได้ขอบคุณอะไรเลย อย่าได้ทะลึ่งตอบรับ ไม่งั้นคุณจะเจอกับ “เออ เอาเหอะ”)
(8) เออ เอาเหอะ: เป็นวิธีที่เจ้าหล่อนจะพูดกับคุณว่า ไอ้เหี้ย!
(9) อย่าห่วงเลย,อือ เข้าใจละ: อีกหนึ่งสถานะอันตราย หมายความว่านี่คือบางอย่างที่เธอบอกให้คุณทำมาหลายครั้งละ แต่คราวนี้เธอจะทำเอง ซึ่งเดี๋ยวคุณก็จะถามว่า “เป็นไรอะ” แล้วคุณก็จะเจอกับข้อ 3.

Tags: ผู้ชาย, ผู้หญิง, แน่นอน

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

งานนี้รอดยาก

ปองภาสแต่งงานมาได้เกือบ 10 ปี
ตลอดช่วงเวลานั้นเขาถูกปกครอง
ด้วยระบอบภรรยาธิปไตยมาตลอด
จากปางหวันผู้เป็นภรรยา
จนกระทั่งกลายเป็นคนหงอไม่สู้คน

ปองภาสตัดสินใจไปหาจิตแพทย์

"ต้องแก้ให้ถูกจุด"
หมอว่า
"เย็นนี้กลับไปบ้าน
แล้วแสดงให้เธอเห็นซะว่า
คุณต่างหากที่เป็นเจ้านาย ไม่ใช่เธอ"

จิตแพทย์ต้องปลุกปลอบจิตใจอยู่นาน
จนปองภาสฮึดสู้ขึ้นมา


เขาก้าวเข้าบ้านและประกาศก้อง
ใส่ปางหวันผู้เป็นภรรยา

"ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป
เธอต้องรับฟังคำสั่งจากฉัน"

เขาเริ่มต้นอย่างมั่นใจ


"เริ่มด้วยเตรียมอาหารว่างให้ฉัน
แล้วไปเตรียมเสื้อผ้าให้
เพราะคืนนี้ฉันจะไปเที่ยวกับเพื่อน
ส่วนเธอต้องอยู่เฝ้าบ้านให้ดี
อ้อ คงรู้นะว่า
ใครที่จะต้องหวีผม
โกนหนวด
และผูกเน็คไทให้ฉันด้วย..."





"รู้สิ"


ปางหวันจ้องหน้า
แสยะยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม


"สัปเหร่อไงล่ะ"

ภรรยาต้องปรับตัว

คุณสามีเป็นคนที่มีความต้องการทางเพศสูงมาก
ส่วนคุณภรรยาก็เป็นแม่บ้านที่ดีมากคนหนึ่ง
เช้าวันหนึ่ง

“คุณพี่ค่ะ มาทานข้าวเช้า ก่อนแล้วค่อยออกไปทำงานนะค่ะ”
ภรรยาเรียกสามีทานข้าวเช้า “ไม่กิน..พี่จะกินน้องงงงงง”
ว่าแล้วสามีก็……. (อะจึ๋ย อะจึ๋ย) แล้วก็ออกไปทำงาน

ตอนเที่ยงคุณสามีกลับมาบ้าน ภรรยาเห็นเข้าจึงเรียก

“อ้าวคุณพี่ กลับมาบ้านทำไมค่ะ มา มา มาทานข้าวเที่ยงกัน”
ภรรยาเป็นห่วงสามีจึงเรียกทานข้าว
“ไม่กิน..พี่จะกินน้องงงงงง”
ว่าแล้วสามีก็……. (อะจึ๋ย อะจึ๋ย) แล้วก็ออกไปทำงานอีกครั้ง

ตกตอนเย็น สามีกลับมาบ้าน

พบว่าคุณภรรยากำลังยืนค่อมเตาถ่านอยู่ โดยที่เตาถ่านกำลังแดงระอุอยู่
สามีตกใจมากรีบวิ่งเข้าไปหาและถามว่ากำลังทำอะไรอยู่

คุณภรรยาตอบกลับมาหน้าตายิ้มแย้มว่า
“ก็กำลังอุ่นอาหารเย็นให้พี่ไงคะ!!!“

สาวเปรี้ยวกะสาวเรียบร้อย

บนเครื่องบินโดยสารลำหนึ่ง สาวเปรี้ยวแต่งตัวเหมือนคุณหญิงใส่เพชรใส่ทองมากมาย
สาวเรียบร้อยแต่งตัวเรียบๆ แล้วผู้หญิง 2 คนก็เริ่มคุยกัน

สาวเปรี้ยว : สวัสดีค่ะมาเที่ยวคนเดียวเหมือนกันเหรอคะ
สาวเรียบร้อย : ค่ะมาคนเดียว

สาวเปรี้ยว : เนี่ย เดี๊ยน ไม่ได้มาเที่ยวอย่างเดียวหรอกคะ กะว่าจะมาดูรถ Porche ไปให้ลูกใช้ซัก 2 คัน
สาวเรียบร้อย : อ๋อเหรอคะ

สาวเปรี้ยว : ตอนสมัยอยู่ฝรั่งเศส ก็ขับจากัวร์ กับเฟอร์รารี่เจ้าคุณพ่อซื้อให้ค่ะ เงินสดนะคะ
สาวเรียบร้อย : อ๋อเหรอคะ

สาวเปรี้ยว : มานี่จะซื้อของขวัญให้ตัวเองซะหน่อยกะว่าจะซื้อเพชรกลับเมืองไทยซัก 50 กะรัต
สาวเรียบร้อย : อ๋อเหรอคะ

สาวเปรี้ยว : แล้วคุณน้องหล่ะคะ ชีวิตเป็นไงบ้างค่ะ
สาวเรียบร้อย : ก็ ไม่มีอะไรคะ ชีวิตเรียบง่าย สมัยเรียน พ่อให้ไปเรียนในวังได้แต่เย็บปักถักร้อย ร้อยพวงมาลัย ทำขนม ครูห้ามพูดคำหยาบ ครูบอกว่าถ้าจะด่าใคร อีตอแหล ให้พูดว่า อ๋อเหรอคะ

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

เมื่อผู้จัดการอยากมี sex กับเลขาสาวสวย

ผู้จัดการอยากมี Sex กับเลขาสาว

เลยบอกตรงๆว่า

“ผมขอมีอะไรด้วยได้ไหม ผมจะวางเงินไว้ให้หนึ่งพัน

เธอก้มลงเก็บตังค์ พอยืนขึ้นเมื่อไหร่ ผมก็จะหยุด ok มั๊ย”

เลขาตอบ “เอ่อๆๆ หนูขอถามแฟนก่อน น๊ะค๊ะ”

แล้วเลขาก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้แฟนฟัง “แค่ก้มเก็บตั้งค์แล้วยืนขึ้นก็พอเหรอ …

สักสองพันดีมั๊ย … ใช้เวลาแค่ก้มลงเก็บเอง

อีก 2 นาทีโทรกลับมาน๊ะ ก้มเก็บตังค์แป๊บเดียวเอง”

10 นาทีผ่านไป ฝ่ายชายก็โทรกลับมา “ทำไมไม่โทรกลับ นานแล้วเนี่ยะ”

“โอ๊วๆ อู๊ว ยางงงงง ไม่เสร็จค่ะพี่ โอ๊วๆๆๆๆ”

“ไรว๊ะก้มลงเก็บตังค์ แค่นี้เอง”

“โอ๊ววว โย๊ๆๆๆ อ๊าๆๆๆ …. หนูไม่รู้ว่ามันเป็นเหรีญบาทค่ะพี่ อ๊ากๆๆๆ โอ๊วววว”